ปีนี้คุณแม่ของดิฉันปีนี้อายุย่างเข้า 91 ปีแล้ว ท่านไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองมานานแล้วเพราะเป็นอัมพฤกษ์มาหลายปีแล้ว แม้ว่าจะดูแข็งแรง หน้าอิ่มสมวัย แต่ท่อนล่างลีบไม่สามารถเดินได้ โชคดีที่ครอบครัวเรามีลูกสาวเยอะจึงหมุนเวียนผลัดกันมาดูแล ส่วนตัวดิฉันอยู่กรุงเทพมีส่วนในการปรนนิบัติท่านน้อยมาก ในการช่วยเหลือแม่ในการทำกิจวัตรประจำวันไม่ใช่เรื่องง่าย หากใครมีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้จะนึกภาพออกว่าในแต่ละวันทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแลต่างก็เหนื่อย เพราะต้องอุ้มโยกย้ายตัวผู้ป่วยวันละหลายรอบ นับตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ต้องอุ้มย้ายจากเตียงนอนมานั่งวีลแชร์ ย้ายไปอาบน้ำ ย้อุ้มกลับไปนั่งเพื่อแต่งตัว พาออกนอกสถานที่ เช่น ไปหาหมอ ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี
เมื่อผู้ดูแลเริ่มหลังเดี้ยงเราก็พยายามหาซื้ออุปกรณ์เสริมเพื่อมาช่วยในการเคลื่อนย้ายแม่พบว่าไม่มีขาย น้องสาวและดิฉันจึงได้ร่วมกันคิดค้น ‘ผ้ายกตัว’ ขึ้น และได้ส่งตรวจวิเคราะห์กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เรียบร้อยทั้งส่วนแผ่นรองรับและหูของผ้าที่ใช้จับหิ้ว สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 300 กิโลกรัม จึงมีความปลอดภัยสูง นับเป็นนวัตกรรมใหม่ในการเคลื่อนย้ายตัวผู้ป่วยโดยเปลี่ยนจากการอุ้ม ลาก หรือดึง เป็นการหิ้วหรือหามแทน สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยความทะนุถนอมได้ ผู้ป่วยไม่บอบช้ำ และผู้ดูแลไม่ปวดหลังเพราะสองคนช่วยกันหามจึงทุ่นแรง
ดิฉันรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สร้างสินค้านวัตกรรมใหม่แบบ home use ใช้ง่าย มีประโยชน์กับผู้สูงวัย ผู้พิการ และผู้ที่ไม่สามารถช่วยตนเองได้ สำหรับวันนี้นับเป็นความสุขเล็ก ๆ ที่การใช้ผ้ายกตัวทำให้สามารถพาแม่ขึ้นรถเก๋ง ไปทำบุญตักบาตรที่วัดได้อย่างสบาย ๆ จึงตั้งใจว่าเย็นนี้จะใช้ยกตัวขึ้นพาแม่ขึ้นไปชมสวนบนดาดฟ้า…..โปรดมอบความรัก ความเอาใจใส่ แก่คนที่คุณรักด้วยวิธีง่ายๆ